รายละเอียด ฮีตเตอร์สำหรับชุบโลหะ
สารบัญเนื้อหา
การชุบนิเกิ้ลไม่ใช้ไฟฟ้า คือ อะไร ?
การชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เคลือบวัตถุด้วยชั้นนิกเกิ้ลบางๆ ซึ่งแตกต่างจากการชุบนิกเกิลด้วยไฟฟ้าแบบดั้งเดิมซึ่งต้องการทั้งตัวเร่งปฏิกิริยาและกระแสตรงเพื่อเริ่มต้นปฏิกิริยาลูกโซ่
การชุบนิกเกิ้ลด้วยไฟฟ้าเป็นกระบวนการทางไฟฟ้าเคมีสำหรับการฝากนิเกิ้ลเป็นชั้นบาง ๆ ของโลหะบนพื้นผิวที่เป็นของแข็ง ในทางกลับกัน การชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้าเป็นกระบวนการทางเคมีสำหรับการชุบนิกเกิลบนพื้นผิวโดยไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้า
กระบวนการทั้งสองนี้ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนโลหะที่มีความต้านทานการกัดกร่อนได้ดี การชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้าสามารถใช้ได้ในหลายลักษณะ เช่น ในอุปกรณ์แปรรูปอาหาร เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องจักรสิ่งทอ
ในทางกลับกัน การชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อเริ่มปฎิกริยาเคมี แต่ใช้สารรีดิวซ์ทางเคมี เช่น (Reducing agent) เช่น ฟอสฟอรัส ที่ช่วยให้เกิดการชุบนิเกิ้ลบนวัตถุ กระบวนการนี้มีประโยชน์มากมายมากกว่าการชุบด้วยไฟฟ้าแบบเดิม เช่น ความต้านทานการกัดกร่อนที่เพิ่มขึ้นและการยึดเกาะที่ดีขึ้น
การชุบนิเกิ้ลไม่ใช้ไฟฟ้า ให้ความทนทานต่อการกัดกร่อนและการหล่อลื่นได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการชุบนิเกิ้ล แบบอิเล็กโทรไลต์ หรือที่เรียกว่าการเคลือบด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาอัตโนมัติ การชุบนิเกิ้ลไม่ใช้ไฟฟ้าเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำเนื่องจากการเคลือบของชั้นผิวของนิเกิ้ลนั้นมีความสม่ำเสมอ
การชุบนิเกิ้ลไม่ใช้ไฟฟ้า คือ อะไร ?
- อุตสาหกรรมยานยนต์
- โรงานอุตสาหกรรม
- การบินและอวกาศ
- อุตสาหกรรมทหาร
- ปิโตรเคมี
- การจัดการกระดาษและลูกฟูก
- การเคลือบผิวเครื่องจักร (ปั๊มขึ้นรูปเหล็กดัดฉีดพลาสติก)
รายละเอียด ฮีตเตอร์สำหรับชุบโลหะ
พื้นฐานการชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า หรือ การชุบ EN
ปฎิกิริยาเคมีและส่วนประกอบเคมีของการชุบ EN
NiSO4 + H2O → Ni2+ + SO42 – + H2O
NaH2PO2 + H2O → Na+ + H2PO2– + H2O
(Oxidation) H2PO2– + H2O (CATALYST)→ H2PO3– + H2
Ni2+ + H2PO2– + H2O → Ni + H2PO3– + 2H+
โดยจะมีส่วนประกอบของสารเคมีดังนี้สารประกอบนิเกิ้ล (Nickel source)
ส่วนใหญ่จะเป็นเกลือของนิเกิ้ลที่ละลายได้ (Nickel salt) ซึ่งการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการละลาย ความบริสุทธิ์ และราคา สารเคมีที่นิยมใช้กันมากที่สุด คือ นิเกิ้ลซัลเฟต (NiSO4 , Nickel sulfate) และยังมี นิเกิ้ลซัลฟาเมต (Ni(SO3NH2)2 , Nickel sulfamate) , นิเกิ้ลคลอไรด์ ( NiCl2 , Nicel Chloride) , นิเกิ้ลอะซิเตต ( Ni(OCOCH3)2 , Nickel acetate ) และ นิเกิ้ลไฮโปฟอสไฟต์ (NiO4P2 , Nickel Hypophosphite) ที่นิยมใช้ด้วยเช่นกันตัวรีดิวซ์ (Reducing agent)
เป็นสารประกอบที่ทำให้หน้าให้อิเล็กตรอนเพื่อให้เกิดปฏิกิริยา autocatalyticสารเคมีที่นิยมใช้ ได้แก่ โซเดียมไฮโปฟอสไฟต์ (NaPO2H2 ,Sodium hypophosphite) , โซเดียมโบโรไฮไดรด์ (NaBH4 , Sodium borohydride) และ ไดเมทไทลามีน โบเรน ( (CH3)2NH , Dimethylamine borane)Complexing agents
เป็นสารประกอบที่ช่วยให้ควบคุมสารประกอบของนิเกิ้ลให้สเถียรไม่แตกตัวเป็นไอออนก่อนเกิดปฏิกิริยา autocatalytic สารประกอบที่นิยมขึ้นอยู่กับประเภทของงาน เช่น กรดคาร์บอกซิลิก ((C=O) -OH, Carboxylic acids) หรือ เอมีน (Amines)Neutralizers/buffers
เมื่อเกิดปฎิกิริยาการชุบ EN จะเกิดไอออนของไฮโดรเจนและแก๊สไฮโดรเจนขึ้น ทำให้ความเป็นกรดในสารละลายทั้งหมดสูงขึ้น (pH ลดลง) สารประกอบ Buffer จะช่วยลดการสวิงของ pH สารประกอบที่นิยมใช้ได้แก่ แอมโมเนียม ไฮดรอกไซด์ (NH4OH, Ammonium hydroxide) , โซดาไฟ (NaOH , sodium hydroxide) และ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH,Potassium hydroxide)Stabilizers
ช่วยควบคุมและลดอัตราการเกิดปฎิกิริยาการชุบ นิยมใช้สารประกอบของตะกั่วหรือซัลเฟอร์Brighteners
เพิ่มความสวยงามของผิวการชุบ EN นิยมใช้สารประกอบแคดเมียมมากที่สุดขั้นตอนการชุบนิเกิลแบบใช้ไฟฟ้าบนโลหะ
ขั้นตอนการเตรียมผิวชิ้นงาน
การล้างทำความสะอาดพื้นผิวและคราบไขมันบนพื้นผิวชิ้นงาน ( cleaning and degreasing )
เพื่อชะล้างเศษซาก ทราย และคราบไขมันที่เกาะอยู่บนชิ้นงาน โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้
2.1 จุ่มชิ้นงานลงในบ่อชะล้างโซดาไฟ ( Caustic bath cleaning )
ขั้นตอนนี้ใช้สารละลายโซดาไฟเพื่อชะล้างคราบไขมัน โดยให้ความร้อนโซดาไฟที่ อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ด้วย ฮีตเตอร์สแตนเลส หรือ ฮีตเตอร์ไทเทเนียม ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที หรือแล้วแต่ความเหมาะสมของชิ้นงานแต่ละชิ้น หลังจากน้ำทำการจุ่มล้างด้วยน้ำเปล่า2.2 จุ่มชิ้นงานลงในบ่อล้างด้วยไฟฟ้า ( Anodic Electrocleaning )
เหมาะกับชิ้นงานที่เป็นโลหะส่วนใหญ่ แต่ไม่นิยมใช้กับ ชิ้นงานพลาสติก และโลหะที่สามารถละลายในสารละลายอัลคาไลน์ได้ เช่น อลูมิเนียม โครเมี่ยม ดีบุก ตะกั่ว ทองแดง แมกนีเซียม และอื่นๆ ขั้นตอนนี้ใช้เพื่อทำความสะอาดสิ่งที่บ่อโซดาไฟไม่สามารถชะล้างออกได้ วิธีการทำคือการนำชิ้นงานมาต่อกับขั้วบวกของแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อทำให้เป็นขั้วแอโนด และใช้แผ่นล่อหรือแผ่นโครเมี่ยมตะกั่วต่อกับขั้วลบของแหล่งจ่ายไฟเพื่อทำให้เป็นขั้วแคโทด ส่วนสารละลายขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงาน เช่น ไซยาไนด์ หรืออื่นๆการกัดเปิดผิวชิ้นงาน ( Etching surface )
การชุบนิเกิ้ลแบบไม้ใช้ไฟฟ้า (Electroless nickel plating)
- Nickel Phosphorus
- Nickel Boron
- Composite EN coatings
- Ternary alloys
ประเภทของการชุบนิเกิ้ลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Electroless Nickel plating)
Nickel Phosphorus
หรือ เรียกว่า Ni-P systems กระบวนการนี้ให้พื้นผิวที่มีความเรียบลื่น แรงเสียดทานบนพื้นผิวน้อย พื้นผิวหลังจากชุบนิเกิ้ลแล้วมีความแข็งและยังสามารถเพิ่มความแข็งหลังการชุบนิเกิ้ลได้ด้วยการทำ heat treatment อีกด้วยNickel Boron
นิยมใช้อย่างมากสำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอากาศยาน การชุบนิเกิ้ลแบบนี้ทำให้มีการนำไฟฟ้าของชิ้นงานดีมาก นอกจากนี้ยังเพิ่มจุดหลอมเหลวและความทนทานการเสียดสีอีกด้วยComposite EN coatings
ทำจากสารต่างๆ เช่น พอลิเตตระฟลูออโรอีเทน (PTFE) หรืออนุภาคแข็ง เช่น ซิลิกอนคาร์ไบด์ ชิ้นส่วนที่เคลือบด้วย PTFE มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำมาก อนุภาคแข็งที่สะสมร่วมกันช่วยให้เราทนต่อการสึกหรอได้ดีขึ้น
Ternary alloys
Poly-alloys เรียกอีกอย่างว่า allotri ประกอบด้วยธาตุมากกว่า 2 ชนิด และตัวอย่างของ allotri คือ nickel phosphorus tungsten ซึ่งให้การเคลือบที่แข็งมาก
รายละเอียด ฮีตเตอร์สำหรับชุบโลหะ